คลังบทความของบล็อก

ล่าสุด

ฮอยอัน ทัวร์เวี่ยดนาม เที่ยวเมืองมรดกโลก


• สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮอยอัน
   สำหรับการมาเที่ยวชมเมืองฮอยอัน สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ การซื้อบัตรเข้าชมเมืองเก่าบริเวณหัวถนนตรันฝู ภายในบัตรนั้นคุณสมารถเข้าชมได้ 5 สถานที่ภายใน 1 วัน จะเลือกเดินเท้าเข้าชมเมือง เช่าจักรยาน หรือใช้บริการของสามล้อถีบก็ได้เช่นกัน เนื่องจากฮอยอันเป็นเมืองเล็กๆ มีถนนสายหลักเพียงไม่กี่เส้น ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็เที่ยวครบแล้ว
• สมาคมฟุกเกี๋ยน (Phouc Kien Assembly Hall)
ถนนสายตรันฝู นอกจากจะเป็นศูนย์กลางของการเที่ยวชมเมืองโบราณฮอยอันแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในช่วงปี พ.ศ.2388-2428 จะเห็นได้จากบ้านเก่าแก่ประจำตระกูลกว่า 20 หลัง ตลอดจนจั่วฟุกเกี๋ยนที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2335 ซึ่งถือเป็นสามคมชาวจีนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองฮอยอัน ใช้สำหรับเป็นที่พบปะของคนหลายรุ่นที่อพยพมาจากฟุกเกี๋ยนที่มีแซ่เดียวกัน และยังใช้เป็นที่ระลึกถึงถิ่นกำเนิดและบูชาบรรพบุรุษของตน และภายในยังเป็นที่ตั้งของวัดที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับลัทธิของพระนางเทียนเห่า มีจุดเด่นอยู่ที่งานไม้แกะสลัก ลวดลายสวยงามน่าชมและหากคุณไม่เร่งรีบไปไหน สองฟากฝั่งของถนนตรันฝูยังเต็มไปด้วยร้านขายสินค้าทำมือให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก ทั้งงานแกะสลักไม้ โคมไฟจากผ้าไหมหลากสี ภาพวาดที่สะท้อนวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวฮอยอัน ตลอดจนร้านอาหารหลากสัญชาติ หลายบรรยากาศ
• สะพานญึ่ปุ่น (Japanese Covered Bridge)
สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองฮอยอันที่คุณต้องมาชมคือ สะพานญี่ปุ่น ได้รับการก่อสร้างโดยชุมชนชาวญี่ปุ่นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว รูปทรงโค้งของสะพานและหลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นคลื่น ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงจัตุรัสที่สร้างอุทิศให้แก่ดั๊กเดและตรันหวู ก่อนเดินข้ามสะพานด้านซ้ายมือจะมีรูปปั้นสุนัขกำลังนั่ง และเมื่อข้ามไปแล้วก็จะเจอกับลิงอีกตัว นับเป็นสิ่งที่ช่างสมัยก่อนแสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการก่อสร้าง สะพานแห่งนี้ เมื่อข้ามสะพานมายังอีกฟากหนึ่งของเมือง คุณจะพบเห็นบ้านเรือนเก่าสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ตลอดจนร้านสไตล์อาร์แกลอรี่ริมถนนคนเดินสองฟากฝั่งถนนให้คุณได้เลือกซื้อเลือกชม ส่วนถนนอีกเส้นคือ เหวียนทิมิงห์ไค ที่มีบ้านเก่าอีกหลังที่น่าสนใจเช่นกัน คือ บ้านเลขที่ 7 เป็นบ้านชาวจีนทที่ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากบนผืนแผ่นดินเวียดนามเมื่อครั้งขบวนเรือสำเภาเข้ามาค้าขายในเมืองท่าแห่งนี้
เอกลักษณ์ของบ้านไม้เก่าในฮอยอันก็คือ ส่วนหน้าบ้านจะอยู่ติดกับถนนอีกสายหนึ่งและหลังบ้านจะอยู่ติดกับถนนอีกสายหนึ่ง บริเวณหลังบ้านจะยาวมาก ภายในตกแต่งด้วยไม้แกะสลักงดงาม และหน้าบ้านจะดัดแปลงมาเป็นร้านค้าขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว
• บ้านเลขที่ 101 (Old House No.101)
เสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเยือนเมืองฮอยอันก็คือ การได้เข้าไปเยี่ยมชมบ้านประจำตระกูลเก่าแก่ที่ยังคงงดงาม มีให้เลือกชมอยู่หลายหลัง แต่คุณสามารถเลือกเข้าชมได้เพียงหนึ่งหลังจากบัตรเข้าชม นอกเหนือจากนี้คุณจะต้องจ่ายค่าเข้าชมในบ้านแต่ละหลังเอง เริ่มตั้งแต่ถนนตรันฝู ที่ตั้งของบ้านเลขที่ 77 ซึ่งเป็นบ้านของลูกหลานชาวจีนเก่าแก่อายุเกือบ 80 ปี ซึ่งอยู่อาศัยมาถึง 6 รุ่นแล้ว ภายในใช้เครื่องไม้ประดับตกแต่งอย่างงดงาม ถัดมาที่ถนนเหวียนไทฮ็อก ที่ถือว่าเป็นศูนย์รวมของสถาปัตยกรรมแบบฮอยอัน บนถนนสายนี้มีบ้านประจำตระกูลเก่าแก่ให้เลือกเข้าชมทั้งหมด 3 หลังด้วยกัน เริ่มจากบ้านเลขที่ 22 บ้านเก่า 2 ชั้น ของชาวจีนที่เข้ามาติดต่อเพื่อซื้อขายอบเชย สร้างมาเกือบ 90 ปีแล้ว ภายในแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ บ้านไม้และบ้านปูนเก่าสร้างอย่างประณีต เป็นครอบครัวใหญ่ที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้และที่คุณพลาดไม่ได้คือ บ้านเลขที่101 เป็นบ้านของจีนในตระกูล Tan Ky นับเป็นบ้านไม้ที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดของเมืองฮอยอัน สร้างขึ้นมาเมื่อ 75 ปีที่แล้ว และอยู่กันมา 5 ชั่วอายุคน ภายในแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว ตั้งแต่ ห้องสมุดสมัยก่อน ห้องรับแขก และห้องครัว
• ศูนย์วัฒนธรรมและหัตถกรรม (Handicraft workshop and traditional music shop)
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในศูนย์วัฒนธรรมและหัตถกรรมแห่งนี้คือ โรงละครหลังเล็ก ที่จัดการแสดงพื้นเมืองที่หาดูได้ยากของชาวเวียดนาม ตั้งแต่การจับปลา การเกี่ยวข้าว ท่ามกลางศิลปินนักร้อง นักดนตรี ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวเวียดนาม สำหรับนัก่องเที่ยวี่ไม่อยาดพลาดการแสดงที่น่าประทับใจเช่นนี้ แนะนำให้มาในวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00 น. หรือ เวลา 15.00 น. เพราะจะมีการแสดงเพียง 2 รอบต่อ 1 วันเท่านั้น
นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมงานฝีมือของเมืองฮอยอัน ตั้งแต่งานแกะสลักไม้ งานแกะสลักหินอ่อน ที่ยินดีให้คุณได้ชมในทุกขั้นตอนของการผลิต และสมารถเลือกซื้อกลับไปเป็ฯชองที่ระลึกได้ในราคาย่อมเยา
• พิพิธภัณฑ์เซรามิก (Museu of Trading Ceramics)
ที่ตั้ง อยู่บนถนนสายตรันฝู ตรงบ้านเลขที่ 80 ภายในบ้าน 2 ชั้นหลังนี้ สร้างจากไม้เนื้อแข็งที่มีอายุเก่าแก่กว่า 80 ปี โดยบรรพบุรุษดั้งเดิมเป็นชาวจีนฟุกเกี๋ยนที่เข้ามาติดต่อซื้อขายยาสมุนไพร และไม่ได้กลับไปยังถิ่นฐานเดิม ปัจจุบันจึงดัดแปลงบ้านไม้เก่าแก่หลังนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เซรามิกที่จัดแสดงโบราณวัตถุเอาไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ตั้งแต่ ถ้วย ขาม เครื่องใช้ไม้สอยสมัยโบราณ รวมทั้งชามสังคโลกของไทย สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมาของเมืองมรดกโลกริมแม่น้ำทูโบนที่เต็มเปี่ยวด้วยเสน่ห์แห่งนี้ นอกจากจะได้ชมถ้วยชามเซรามิกเก่าแก่แล้ว จากบริเวณระเบียงบ้านชั้น 2 คุณยังสามารถมองลงมายังถนนหน้าบ้าน เพื่อชมเมืองฮอยอันในมุมสูงได้อีกด้วย
• หลังจากเที่ยวชม 5 สถานที่ของเมืองเก่าฮอยอันจนครบแล้ว สถานที่ต่อไปที่คุณไม่ควรพลาดชม คือ แม่น้ำทูโบน แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลหล่อเลี้ยงชาวฮอยอันจากอดีตจนปัจจุบัน เต็มไปด้วยร้านอาหารนานาชาติ บรรยากาศดี ให้คุณได้เลือกนั่งพักชมวิวริมแม่น้ำ และหากมีเวลาพอห่างจากตัวเมืองเก่ามาไม่ไกล ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำทูโบนยังเป็นที่ตั้งของหาดจีน ชายหาดที่ทอดยาวต่อเนื่องมาจากเมืองดานัง ซึ่งขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในเมืองฮอยอัน
• แม่น้ำทูโบน (Thu Bon River)
• หากมาเยือนเมืองฮอยอันแล้วไม่ได้มาเยี่ยมชมแม่น้ำทูโบนแล้วก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะแม่น้ำสายนี้มีความสำคัญตั้งแต่สมัยครั้งโบราณ ก่อนที่ฮอยกันยังเป็นเมืองท่าสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชาวต่างชาติจำนวนมากล่องเรือเข้ามาททำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่เมืองแห่งนี้ ทำให้ฮอยอันเป็นเสมือนศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก แต่ภายหลังที่แม่น้ำเริ่มตื้นเขิน เรือเดินสินค้าไม่สามารถมาจอดเทียบท่าได้ เมืองดานังจึงถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ฮอยอัน แต่อย่างไรก็ดี สายน้ำทูโบนแห่งนี้กลับมิได้สูญหายไปพร้อมกาลเวลา แต่ยังคงทำหน้าที่หลักไหลหล่อเลี้ยงชาวฮอยอันอยู่เรื่อยมา เห็นได้จากชาวบ้านที่ยังคงออกหาปลาในแม่น้ำ และใช้แม่น้ำสายนี้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาหาสู่กันระหว่างสองฟากฝั่งน้ำ การได้มาเดินเที่ยวชมริมแม่น้ำทูโบน จึงเต็มแด้วยเสน่ห์ของกาลเวลาที่เชื่อมต่อระหว่างอดีตและปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่บ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลมรดกตกทอดริมฝั่งแม่น้ำทูโบน หมู่บ้านชาวประมงที่หาดูได้ยาก ศิลปะที่ผสมผสานที่แสดงผลงานศิลปะไว้ภายในเรือ ตลอดจนร้านอาหารสองบรรยากาศที่มีให้คุณเลือกสรรทั้งร้านขายน้ำผลไม้แบบเรียบง่ายริมฝั่งแม่น้ำ หรือร้านอาหารสมัยใหม่หลายสัญชาติที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม และถ้าคุณต้องการสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสายน้ำทูโบนอบ่างใกล้ชิดแล้ว ก็มีบริการล่องเรือชมวิวทิวทัศน์และวิถีริมฝั่งน้ำให้คุณเลือกใช้บริการเช่นกัน

• หาดเกาได๋ หรือ หาดจีน (Cao Dai Beach)
• นอกจากบ้านเรือนสวยสไตล์โคโลเนียลที่มีให้เยี่ยมชมย่านเก่าใจกลางเมืองฮอยอันแล้ว ถัดมาไม่ไกลจากตัวเมืองฝั่งตรงขามกับแม่น้ำทูโบน คุณจะได้พบกับชายหาดสวยชื่อ เกาได๋ ที่ทอดยาวต่อเนื่องมาจากเมืองดานัง หรือที่ชาวฮอยอันเรียกว่า หาดจีน เป็นชายหาดที่มีเนื้อทรายละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ มีกิจกรรมทางน้ำมากมายให้เลือกสรร เหมาะทั้งลงเล่นน้ำและชมวิวทิวทัศน์ บริเวณฝั่งตรงข้ามชายหาดเต็มไปด้วยโรงแรมระดับดีให้คุณได้เลือกพักชมวิวทะเล ตลอดตนร้านอาหารให้เลือกลิ้มรส นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หลังจากเที่ยวชมเมืองเก่าฮอยอันจนครบแล้ว ก็มักเปลี่ยนบรรยากาศมาพักผ่อนหย่อนใจที่หาดทรายสวยแห่งนี้

• หุบเขาหมี่เซิน..มรดกโลก
• ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากเมืองดานังไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองฮอยอันมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร
• การเดินทาง : ท่านสามารถหาซื้อแพกเกจทัวร์ได้จากบริษัทเมืองดานังหรือฮอยอันจะสะดวกกว่าเดินทางไปด้วยตัวเอง ราคาไป-กลับ ประมาณ 4 US$ แต่ถ้าเลือกนั่งเรือกลับก็ต้องเพิ่มเงินอีกนิดหน่อย
• นักโบราณคดีเชื่อว่าวัฒนธรรมของจามมีพื้นฐานมาจากวัฒนธรรมซาหินห์ของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในแผ่นดินอันนัมและผสานเข้ากับวัฒนธรรมอินเดียที่ขึ้นฝั่งมาทำการค้าเมื่อครั้งอดีต
• วัฒนธรรมจาม มีความเจริญรุ่งเรืองยาวนานถึงพันกว่าปี มีศูนย์กลางอยู่ที่หุบเขาหมี่เซิน โดยเริ่มต้นจากพระเจ้าภัทรวรมันที่ 1 ในคริสต์ศตวรรษที่ 4 อาณาจักรจามรุ่งเรืองครอบครองอาณาเขตตั้งแต่ทางตอนใต้ของฮานอยไปจนถึงเวียดนามใต้และภาคตะวันออกของกัมพูชา ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดอาณาจักรจามปา มีกษัตริย์ปกครอง 78 พระองค์ ใน 14 ราชวงศ์ ก่อนเข้าสวามิภักดิ์กับอาณาจักรไดเวียดเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 15 และถือเป็นอันสิ้นสุดลงของอาณาจักรแห่งความยิ่งใหญ่
• ร่องรอยแห่งอารยธรรมของอาณาจักรจามปามีอยู่ทั่วไปในอุษาคเนย์ ซึ่งได้สร้างปราสาทเพื่อถวายพระศิวะมากมาย เนื่องจากชนชาติดังกล่าวนับถือศาสนาฮินดูอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะภายในบริเวณหมี่เซินมีศาสนสถานที่สร้างด้วยอิฐกว่า 70 แห่ง แต่ที่โดดเด่นสุด คือ ปราสาททับจั่ว แต่ภายหลังที่เกิดสงครามเวียดนาม โบราณสถานจำนวนมากถูกทำลายลงจากการทิ้งระเบิดของเครื่องบิน B52 ของอเมริกา แต่อย่างไรก็ดี โบราณสถานที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันก็ยังงดงามควรค่าแก่การเยี่ยมชม เพราะนับเป็นโบราณสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในแหลมอินโดจีน ที่สามารถสะท้อนความรุ่งเรืองแห่งอารยธรรมของจามได้ดีที่สุด จนได้รับเลือกจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2542



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อมูลการท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม

ประเทศเวียดนาม มีรูปร่างคล้ายตัว S ทอดตัวยาวเหยียดไปตามแหลมอินโดจีน ด้านตะวันออกติดทะเลจีนใต้ ด้านเหนือติดจีน ด้านตะวันตกติดลาว และกัมพูชา สามในสี่ของพื้นที่เป็นภูเขาและป่า ครอบคลุมทะเล ไหล่ทวีป และหมู่เกาะนับพันเกาะจากอ่าวตังเกี๋ยจรดอ่าวไทย รวมทั้งหมู่เกาะสแปรตลีและพาราเซลที่จีนและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศแย่งกันอ้างกรรมสิทธิ์ สาเหตุเป็นเพราะมีแหล่งน้ำมันใต้ดินที่อุดมสมบูรณ์

แผนที่ประเทศเวียดนาม